ประโยชน์ของโอเมก้า 3 สำหรับสัตว์เลี้ยง

โอเมก้า 3 สำหรับสัตว์เลี้ยง

ว่ากันด้วยเรื่องของสารอาหารที่จำเป็นสำหรับเรานั้น เรามักจะได้ยินเกี่ยวกับเรื่องของ “โอเมก้า 3” กันมาบ้างใช่มั้ยครับ ซึ่งนอกจากจะมีประโยชน์ต่อคนแล้ว สารอาหารนี้ยังมีประโยชน์ต่อสัตว์เลี้ยงอีกด้วยครับ วันนี้เราเลยอยากจะมาแนะนำเกี่ยวกับ “ประโยชน์ของโอเมก้า 3 สำหรับสัตว์เลี้ยง” พร้อมกับไปดูจักกับสารอาหารนี้กันคร่าวๆ ครับ จะเป็นอย่างไรบ้างนั้น…เราไปชมกันดีกว่าครับ

โอเมก้า 3 คืออะไร?

โอเมก้า 3 (Omega 3) คือ กรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวเชิงซ้อน (PUFAs) ที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์ต่อสุขภาพ เป็นสารอาหารที่มีความสำคัญในการทำงานของสมอง ระบบหัวใจและหลอดเลือด และระบบพัฒนาการการเติบโตของร่างกาย ช่วยลดความดันโลหิต ลดไตรกลีเซอร์ไรด์ ช่วยลดอาการอักเสบของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์  ช่วยบำรุงสมอง บำรุงสายตา ช่วยบรรเทาและป้องกันโรคสมองเสื่อม โรคซึมเศร้า โรคหอบหืด โรคไมเกรน โรคเบาหวาน ช่วยลดความเสี่ยงและป้องกันการเกิดโรคหัวใจและสมองขาดเลือด โอเมก้า 3 พบมากในอาหารจำพวกปลาทะเล ถั่ววอลนัท ถั่วเหลือง เมล็ดพืชชนิดต่างๆ น้ำมันจากเมล็ดแฟลกซ์ น้ำมันคาโนลา

กรดไขมันโอเมก้า 3 ทำงานอย่างไร?

กรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยในการทำงานของเซลล์ทั้งหมดในร่างกายอย่างเหมาะสม โอเมก้า 3 เป็นส่วนประกอบที่สำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นโครงสร้างและสนับสนุนการทำงานร่วมกันระหว่างเซลล์จำนวนมากในร่างกาย ไขมันโอเมก้า 3 มีความจำเป็นต่อเซลล์ทั้งหมดของร่างกาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเซลล์ดวงตา และเซลล์สมอง

ประโยชน์ของ omega-3 สำหรับสุนัข

● ช่วยลดการอักเสบทั่วร่างกาย จึงถูกนำมาใช้เป็นส่วนหนึ่งในการรักษาสุนัขและแมวที่มีปัญหาความเสื่อมของข้อต่อต่าง ๆ (osteoarthritis)
● มีส่วนช่วยในการทำงานของอวัยวะต่างๆ เช่น หัวใจ, ไต, สายตา รวมไปถึงสมอง
● บำรุงเส้นขนและผิวหนัง ให้ความชุ่มชื้น ทำให้ผิวหนังมีความแข็งแรง ช่วยอาการคันที่เกิดจากสารก่อภูมิแพ้

ประโยชน์ของ omega-3 สำหรับแมว

แมวที่ได้รับอาหารที่มีกรดไขมันโอเมก้า-3 และโอเมก้า-6 ในปริมาณที่สมดุลเมื่อเทียบกับอาหารที่มีอัตราส่วนไม่สมดุล การให้อาหารที่ครบถ้วนและสมดุล รวมถึงสมดุลระหว่างกรดไขมันโอเมก้า-6 และโอเมก้า-3 ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าช่วยเสริมสร้างผิวหนังและขนให้มีสุขภาพดี ยกตัวอย่างเช่น ขนร่วงน้อย สีสวยขึ้น ร่างกายแข็งแรง เป็นต้น

สามารถรับโอเมก้า 3 จากอะไรได้บ้าง?

หลักๆ แล้วจะมาจากน้ำมันตับปลา (Fish liver oil) สกัดมาจากตับปลา เช่น cod liver oil จะประกอบไปด้วย EPA และ DHA รวมทั้งมีวิตามินAและD ในปริมาณสูง มักนำมาใช้เพื่อหวังผลในการเสริมสร้างกระดูกและบำรุงสายตา จึงควรใช้ภายใต้การดูแลของสัตวแพทย์ เนื่องจากจุดประสงค์ในการใช้จะแตกต่างจากน้ำมันปลา และการรับวิตามินAและD ที่สูงเกินไปจะส่งผลเสียต่อร่างกายได้

ประโยชน์ของกรดไขมันโอเมก้า 3 ต่อมนุษย์

►ป้องกันโรคหัวใจ และโรคหลอดเลือดสมองตีบตัน

มีงานวิจัยหลายชิ้นที่พบว่ากรดไขมันโอเมก้า 3 มีประโยชน์ต่อสุขภาพที่เกี่ยวข้องกับโรคหัวใจ และหลอดเลือดตีบตัน ด้วยการยับยั้งการเกาะกลุ่มของเกล็ดเลือดในหลอดเลือด การบริโภคกรดไขมันโอเมก้า 3 (EPA+DHA) 850 มก./วัน ร่วมกับวิตามินอีธรรมชาติ 300 มก./วัน หรือปลาและอาหารทะเลที่มีโอเมก้า 3 ช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองและหัวใจล้มเหลว ลดการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ ช่วยลดความดันโลหิตเล็กน้อย ลดการอุดตันในเส้นเลือด ลดการเสียชีวิตจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด และภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน นักวิจัย พบว่าคนที่รับประทานปลา 2 ครั้งต่อสัปดาห์ (ปริมาณ 240 กรัม) มีความเสี่ยงของโรคหัวใจน้อยกว่าคนที่แทบจะไม่รับประทานปลา

►ป้องกันโรคหลอดเลือดหัวใจ: CAD

กรดไขมันโอเมก้า 3 ในน้ำมันปลาเป็นสารตั้งตั้งต้นของสารกลุ่มไอโคซานอยด์ (Eicosanoids) ซึ่งรวมถึงสารโพรสตาแกลนดิน-3 (Prostaglandins-3) และสารทรอมบอกแซน-3 (Thromboxane-3) ซึ่งช่วยยับยั้ง การเกาะตัวของเกล็ดเลือดบนผนังหลอดเลือด ทำให้หลอดเลือดไม่อุดตันและช่วยให้หลอดเลือดขยายตัว ทำให้ระบบการไหลเวียนโลหิตในร่างกายดีขึ้น และลดจังหวะการเต้นของหัวใจที่ผิดปกติ

►ช่วยลดความดันโลหิต

กรดไขมันโอเมก้า 3 ช่วยขยายหลอดเลือด และปรับปรุงการไหลเวียนของเลือดโดยป้องกันการอุดตันในหลอดเลือด ส่งผลให้ความดันโลหิตลดลง ทำให้มีสุขภาพดีขึ้น

►บรรเทาอาการข้ออักเสบรูมาตอยด์

โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ทำให้เกิดอาการบวม ตึง ปวด และการสูญเสียการทำงานของข้อต่อ จากการศึกษาทางการแพทย์พบว่าการรับประทานกรดไขมันโอเมก้า 3 ร่วมกับยารักษาโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์และการรักษาอื่น ๆ สามารถช่วยบรรเทาอาการของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้

และนี้ก็คือข้อมูลเกี่ยวกับ “ประโยชน์ของโอเมก้า 3” ที่มีดีมากกว่าที่พวกเราคิดกันเลยหล่ะครับ หวังว่าจะเป็นข้อมูลที่น่าสนใจไม่มากก็น้อยนะครับ